ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน
A-ERV Home
สิ่งที่จะช่วยให้คุณได้คุณภาพอากาศ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะอากาศจัดเป็นพื้นฐานสำคัญในการใช้ชีวิต เพราะเราต้องใช้อากาศหายใจ
หลักการที่ง่ายที่สุดในการจัดการอากาศภายในบ้าน คือการเติมอากาศสะอาดเข้ามา ซึ่งการเปิดประตูหน้าต่าง ก็เป็นการเติมอากาศเหมือนกัน แต่ อากาศที่ได้สะอาดหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องพิจารณา การเปิดประตูหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศเป็นสิ่งที่ดีและควรทำ โดยเฉพาะ ถ้ามีแสงแดดได้ส่องสว่างเข้าไปบ้างก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยกำจัดเชื้อโรคต่างๆ และลดความชื้นที่อาจเป็นสาเหตุของเชื้อรา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ควรทำในสภาวะที่อากาศมีมลภาวะสูง เช่น การเพิ่มขึ้นของฝุ่น pm2.5
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะคน หรือ สัตว์เลี้ยง ล้วนต้องการออกซิเจน (O2) ในการดำรงชีวิต การที่บ้านพักหรือห้องพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด โดยที่ไม่มีการระบายอากาศ หรือการระบายอากาศน้อยมาก เราจะพบว่าในเวลาไม่นาน ห้องก็จะเพิ่ม CO2 ขึ้นมาเรื่อย ๆ สำหรับคุณภาพอากาศภายในอาคาร การเพิ่มขึ้นของ CO2 อาจไม่ได้เป็นพิษ ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต แต่จะส่งผลกระทบต่อ คุณภาพการใช้ชีวิต เช่น นอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ, คุณภาพการทำงานลดลง, รู้สึกสมองไม่ปลอดโปร่ง
ปลอดฝุ่น ปลอดเชื้อ เพื่อคนที่คุณรัก
CO2 คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเผาไหม้ การหมักและการย่อยสลายของสิ่งมีชีวิต เราจึงพบ CO2 ได้ในธรรมชาติ แต่สำหรับ อากาศภายในบ้านแหล่งกำเนิดหลัก คือมนุษย์ และสิ่งมีชีวิต เพราะ เราหายใจเอา CO2 ออกมาเรื่อยๆ หากไม่มีการระบายอากาศ และการเติมอากาศเข้ามา ค่า CO2 จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นค่า CO2 จึงนำมาใช้เป็นดัชนีชี้วัดเรื่องการระบายอากาศ การที่ CO2 มีการสะสมเยอะ มักจะแสดงให้เห็นว่าห้องๆนั้น อาจมีการสะสมของเชื้อโรค และสารเคมีต่างๆ
ยิ่งในช่วงที่ COVID-19 เข้ามาเราจะเห็นได้ว่าข้อแนะนำค่ามาตรฐาน CO2 ลดจาก 1,000 ppm เหลือเพียง 800 ppm เท่านั้น ยิ่งเป็นการยืนยันได้ว่า ยิ่ง CO2 น้อยลง ค่าความเสี่ยงของเราก็ลดลงด้วย
การเปิดประตูหน้าต่าง เป็นการช่วยระบายอากาศ และเติมอากาศ เข้ามา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก โดยตามข้อกำหนด COVID Free Setting แนะนำให้เปิดทุก 2 ชั่วโมงเป็นเวลา 15 นาที ซึ่งง่ายและสะดวก
แต่ในกรณีนี้จะพบว่าอุณหภูมิภายในห้องก็จะสูงขึ้น เครื่องปรับอากาศก็จะทำงานมาก เปลืองค่าไฟ แถมถ้าเรานอนอยู่เราคงไม่อยากตื่นมาเปิดปิดทุก 2ชั่วโมงแน่ๆ แล้วเราควรทำอย่าไร
เรารู้กันแล้วว่าการเติมอากาศนั้นสำคัญ ซึ่งปัจจุบันก็มีเครื่องเติมอากาศ Fresh air ออกมาจำหน่ายมากขึ้น แล้วเราจะเลือกอย่างไร
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงต้องเติมอากาศเข้ามาภายในห้อง ต่อมาเราก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นการที่เราดึงเอาอากาศที่ร้อนจากภายนอกเติมเข้ามาในห้องโดยตรงนั้น จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเครื่องปรับอากาศของเราอย่างมหาศาล
จากผลวิจัยที่ทำโดย อ.ประพัทธ พงศ์เกียรติกุล วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม KMUTT พบว่าหากเราเติมอากาศจากภายนอกเข้ามาให้ห้องที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศโดยตรง เราจะต้องเสียค่าไฟเพิ่มประมาณ 30% เลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วปัญหาอีกอย่างที่เราจะพบเมื่อใช้งานระบบแบบนี้ไปสักพักคือ เชื้อรา เนื่องจากความแตกต่างทางอุณหภูมิระหว่างอากาศภายในและภายนอก และ ความชื้นจากอากาศภายนอกที่สูง ทำให้เกิดการสะสมของความชื้นภายใน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อรา และ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้
ใบเสนอราคาERV หรือ Energy Recovery คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างลมที่มีอุณหภูมิแตกต่างกัน อย่างในกรณีนี้ คือ อุณหภูมิในห้องที่ต่ำ (ประมาณ 24-26 องศา) และ อุณหภูมิจากด้านนอกที่สูง (ประมาณ 25-45 องศา)
จากการทดสอบเราพบว่า เมื่อใช้ ERV เมื่ออุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ประมาณ 40 องศา และ อุณหภูมิในห้อง อยู่ที่ 26 องศา อากาศที่ที่ได้หลังจากการแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ประมาณ 29-30 องศา ซึ่งลดลงไปจากอุณหภูมิภายนอกถึง 10 องศา โดยจากการศึกษาของทาง KMUTT พบว่าหากเราเติมอากาศด้วย ERV เราแทบจะจ่ายค่าไฟเท่ากับการเปิดแอร์ปกติโดยไม่มีการเติมอากาศเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วในการแลกเปลี่ยนอุณหภูมินั้น ยังทำให้โอกาสในการเกิดความชื้นลดลงอีกด้วย
ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน
A-ERV Home คือ ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรค กำจัดอากาศเสียภายในบ้าน สร้างอากาศสะอาดคุณภาพดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้เราช่วยสร้างเกราะป้องกันแก่บ้านท่าน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า