อันตรายจากความร้อน

อันตรายจากความร้อน

ปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิด ความเครียดจากความร้อน 

สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มปัจจัย 

  1. ปัจจัยส่วนบุคคล 
  2. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม 
  3. ปัจจัยจากการทำงาน 

ปัจจัยส่วนบุคคล

ปัจจัยส่วนบุคคล ทำให้ความสามารถปรับตัวต่อความร้อนไม่เป็นไปตามปกติ ตัวอย่างของปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ 

  • อดหลับ อดนอน 
  • ภาวะทุโภชนาการ /ขาดสารอาหาร 
  • การขาดน้ำ 
  • โรคอ้วน 
  • การรับประทานยาบางประเภท 

ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม

ประกอบไปด้วย อุณหภูมิ ความชื้น การเคลื่อนที่ของอากาศ แหล่งกำเนิด (Radiant Heat Source) ซึ่งแต่ละส่วนจะส่งผลแตกต่างกัน เช่น 

  • อุณหภูมิ (Ambient Temperature) เมื่ออุณหภูมิมีความร้อนสูงกว่าอุณหภูมิร่างกาย ร่างกายจะได้รับความร้อนเข้าจากสิ่งแวดล้อมเสมอ 
  • ความชื้น : ในกรณีความชื้นสูง จะมีผลต่อการเกิดเหงื่อ ซึ่งเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนของร่างกาย 

ปัจจัยจากการทำงาน 

มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง 

  • ความรุนแรงของภาระงาน และระยะเวลาการสัมผัสความร้อน 
  • การสวมใส่เสื้อผ้า รวมถึง PPE ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ที่อาจส่งผลให้เกิดการลดการระบายอากาศลงเช่น ถุงมือ หมวก ชุดป้องกันสารเคมี 

ที่มา : Workplace Safety and Health Guidelines : Managing Heat Stress in the Workplace (Workplace Safety and Health (WSH) Council of Singapore) 

การป้องกันและควบคุมอันตรายในการทำงานสัมผัสกับความร้อน 

  1. หลักการป้องกันและควบคุมที่แหล่งกำเนิดของความร้อน เน้นถึงหลักการที่พยายามจะลดปริมาณความร้อนที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดให้มากที่สุด ได้แก่
    • การใช้ฉนวน (Insulator)  
    • การใช้ฉากป้องกันรังสี (Radiation Shielding)  
    • การใช้ระบบระบายอากาศแบบธรรมชาติ  
    • การระบายอากาศเฉพาะที่ (Local Ventilation) 
  1. การป้องกันและควบคุมความร้อนจากสิ่งแวดล้อม หรือ การจัดการกับทางผ่าน

ในการระบายความร้อนโดยดำเนินการจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน สามารถดำเนินการจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน สามารถดำเนินการได้โดยทั่วไป มี 2วิธี 

  •  การออกแบบและสร้างอาคารให้มีระบบระบายอากาศที่ดี  
  • การเป่าอากาศเย็นที่จุดที่ทำงาน  
  1. การป้องกันที่ตัวคนงาน  โดยทั่วไปแล้วการป้องกันและควบคุมที่จุดต้นกำเนิดความร้อนในบางครั้งในทางปฏิบัติอาจจะทำได้ยาก ดังนั้น การป้องกันที่ตัวคนงานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีหลักการ ดังนี้

3.1 การพิจารณาคัดเลือกคนงานที่ทำงานเกี่ยวกับความร้อนให้เหมาะสม โดย 

  • เลือกคนที่เหมาะสม เช่น คนหนุ่มจะแข็งแรงกว่าคนแก่ คนผอมจะทนต่อความร้อนได้ดีกว่าคนอ้วน 
  • ไม่เลือกคนที่เป็นโรคท้องเสียบ่อยๆ และดื่มสุราเป็นประจำเพราะจะทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรง มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น 
  • ให้คนงานใหม่คุ้นเคยกับการทำงานที่มีภาวะแวดล้อมที่ร้อนเสียก่อน แล้วจึงให้ทำงานประจำ 

3.2 จัดหาน้ำเกลือ ที่ความเข้มข้น 0.1% ซึ่งทำได้จากการผสมเกลือแกง 1 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร ให้คนงานที่ทำงานในสภาวะแวดล้อมที่ร้อน โดยให้ดื่มบ่อยครั้ง ครั้งละประมาณน้อยๆ 

3.3 จัดหาน้ำดื่มที่เย็น (อุณหภูมิประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส) และตั้งอยู่ในสถานที่ใกล้จุดที่ทำงาน 

3.4 ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น เสื้อ หรือชุดเสื้อคลุมพิเศษที่มีคุณสมบัติกันความร้อนเฉพาะ 

3.5 สวัสดิการอื่นๆ เช่น ห้องปรับอากาศสำหรับพักผ่อน ห้องอาบน้ำ เป็นต้น 

3.6 บางลักษณะงาน อาจจำเป็นต้องจำกัดระยะเวลาการทำงาน เพื่อลดระยะเวลาที่จะสัมผัสกับความร้อนน้อยลง 

ทีมา: http://osh.labour.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=154:%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%97-%m-%E0%B9%92%E0%B9%95-%E0%B9%90%E0%B9%97-%M-%S&catid=12:environment&Itemid=203 

ใครจำเป็นต้องตรวจวัดความร้อนบ้าง ? 

โรงงานอุตสาหกรรม  

ซึ่งการตรวจวัดจำเป็นจะต้องอิงตาม “ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการดำเนินการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับความร้อน แสงสว่าง หรือเสียงภายในสถานประกอบการ”  

มีที่ไหนอีกบ้างที่ต้องตรวจวัด? 

โรงพยาบาล

ใช้ค่า WBGT Index เป็นการตรวจวัดเพื่อป้องกันการเกิดภาวะอันตรายจากความร้อน โดย ที่จะมีผลทำให้พนักงานหรือผู้กระทำงานเกิดการเจ็บป่วยเช่น เป็นลม ช็อกหมดสติ หรือเพื่อไปประเมินอันตรายจากการทำงานให้กับหน่วยงานอื่นๆ 

และสามารถใช้ ค่า HEAT INDEX ในการประเมินค่าความสบายได้อีกด้วย 

ทหาร

ในการฝึกภาคสนามต่างๆ อาจพบสภาวะที่ทำให้เกิดการช็อคได้ การตรวจวัดค่า WBGT Index และ HEAT INDEX จึงถูกนำมาใช้เพื่อการป้องการการเกิดเหตุดังกล่าว 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันผลกระทบทางสุขภาพ  

เนื่องจากความร้อนเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ง่ายในประเทศไทย เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศในเขตร้อน ดังนั้น หน่วยงานต่างๆที่ต้องเฝ้าระวังทางสุขภาพ จำเป็น เป็นอย่างยิ่งในการตรวจวัดเพื่อวางแผนการป้องกันต่างๆ 

กลับสู่สารบัญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก