“Accuracy” (ความแม่นยำ/ความถูกต้อง) และ “Precision” (ความเที่ยงตรง) เป็นสองแนวคิดที่สำคัญมากในการตรวจวัด แต่มีความหมายและเน้นที่ต่างกันอย่างชัดเจน
| Accuracy (ความแม่นยำ/ความถูกต้อง) | Precision (ความเที่ยงตรง) | |
| หลักการ | มุ่งเน้นไปที่ ความใกล้เคียงของค่าที่วัดได้กับ “ค่าจริง” (True Value) หรือ “ค่ามาตรฐาน” ของความเข้มข้นก๊าซนั้นๆ ยิ่งใกล้ค่าจริงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความแม่นยำสูงเท่านั้น | มุ่งเน้นไปที่ ความสอดคล้องหรือความเกาะกลุ่มกันของค่าที่วัดได้เมื่อทำการวัดซ้ำๆ หลายครั้ง ภายใต้สภาวะเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าค่าเหล่านั้นใกล้เคียงค่าจริงหรือไม่ |
| ความหมาย | บอกว่าเครื่องมือวัด (Gas Detector) ของเรา “ถูกต้อง” แค่ไหนในการระบุปริมาณก๊าซจริงที่มีอยู่ในอากาศ | บอกว่าเครื่องมือวัดของเรา “สม่ำเสมอ” แค่ไหนในการให้ผลลัพธ์ที่ซ้ำเดิมเมื่อวัดสิ่งเดียวกันซ้ำๆ |
| สิ่งที่บ่งชี้/ปัญหาที่เกี่ยวข้อง | มักจะเกี่ยวข้องกับ Systematic Error (ความคลาดเคลื่อนที่เป็นระบบ) เช่น การสอบเทียบที่ไม่ถูกต้อง เซ็นเซอร์เสื่อมสภาพ การรบกวนจากก๊าซอื่น หรือการ drift ของเซ็นเซอร์ | มักจะเกี่ยวข้องกับ Random Error (ความคลาดเคลื่อนแบบสุ่ม) เช่น สัญญาณรบกวนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ความผันผวนเล็กน้อยของอุณหภูมิ/ความชื้นรอบเซ็นเซอร์ หรือความไม่สม่ำเสมอในการส่งผ่านตัวอย่างก๊าซ |
| สิ่งที่ต้องทำเพื่อปรับปรุง | การสอบเทียบ (Calibration) ด้วยก๊าซมาตรฐานที่ทราบความเข้มข้นอย่างแม่นยำอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนเซ็นเซอร์ที่เสื่อมสภาพ การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับชนิดก๊าซและสภาพแวดล้อม | การบำรุงรักษาเครื่องมือ ให้ดี การตรวจสอบความเสถียรของเซ็นเซอร์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุมปัจจัยภายนอก (อุณหภูมิ, ความชื้น) ให้คงที่ขณะทำการวัด |
ตัวอย่างในการตรวจวัดก๊าซ:
สมมติว่าเรามีก๊าซมีเทนมาตรฐาน (Methane Calibration Gas) ( CH4) ที่ความเข้มข้น 50% LEL (Lower Explosive Limit) ซึ่งหมายถึง 50% ของปริมาณก๊าซมีเทนในอากาศที่สามารถติดไฟหรือระเบิดได้
สถานการณ์ที่ 1: เครื่องมือ A
นำเครื่องมือ A มาวัดก๊าซมาตรฐาน 50% LEL ทำการวัด 5 ครั้ง ได้ผลลัพธ์:
- ครั้งที่ 1: 50.1% LEL
- ครั้งที่ 2: 49.9% LEL
- ครั้งที่ 3: 50.0% LEL
- ครั้งที่ 4: 50.2% LEL
- ครั้งที่ 5: 49.8% LEL
วิเคราะห์
Accuracy: สูงมาก เพราะค่าที่วัดได้ทั้งหมดใกล้เคียงกับค่าจริง 50% LEL
Precision: สูงมาก เพราะค่าที่วัดได้แต่ละครั้งเกาะกลุ่มกันอย่างแน่นหนา (ช่วง 49.8 – 50.2% LEL)
สรุป
เครื่องมือ A เป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยม ทั้งแม่นยำและเที่ยงตรง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความถูกต้องและความน่าเชื่อถือสูง
สถานการณ์ที่ 2: เครื่องมือ B
นำเครื่องมือ B มาวัดก๊าซมาตรฐาน 50% LEL ทำการวัด 5 ครั้ง ได้ผลลัพธ์:
- ครั้งที่ 1: 40.0% LEL
- ครั้งที่ 2: 40.2% LEL
- ครั้งที่ 3: 39.9% LEL
- ครั้งที่ 4: 40.1% LEL
- ครั้งที่ 5: 40.0% LEL
วิเคราะห์
Accuracy: ต่ำ เพราะค่าที่วัดได้ (ประมาณ 40% LEL) ห่างจากค่าจริง 50% LEL อย่างเห็นได้ชัด (อาจเกิดจากการสอบเทียบไม่ถูกต้อง)
Precision: สูงมาก เพราะค่าที่วัดได้แต่ละครั้งเกาะกลุ่มกันอย่างแน่นหนา (ช่วง 39.9 – 40.2% LEL)
สรุป
เครื่องมือ B ให้ผลที่สอดคล้องกัน (เที่ยงตรง) แต่ไม่ถูกต้อง (ไม่แม่นยำ) ซึ่งอันตรายมากในการตรวจจับก๊าซไวไฟ เพราะจะแสดงค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้ผู้ใช้งานอาจประเมินอันตรายต่ำเกินไป ต้องทำการสอบเทียบใหม่ทันที
สถานการณ์ที่ 3: เครื่องมือ C
นำเครื่องมือ C มาวัดก๊าซมาตรฐาน 50% LEL ทำการวัด 5 ครั้ง ได้ผลลัพธ์:
- ครั้งที่ 1: 45.0% LEL
- ครั้งที่ 2: 55.0% LEL
- ครั้งที่ 3: 48.0% LEL
- ครั้งที่ 4: 52.0% LEL
- ครั้งที่ 5: 50.0% LEL
วิเคราะห์
Accuracy: อาจจะพอใช้ได้ (ถ้าดูที่ค่าเฉลี่ย อาจจะใกล้เคียง 50% LEL) แต่ผลลัพธ์แต่ละครั้งห่างจากค่าจริงในทิศทางที่ต่างกัน
Precision: ต่ำมาก เพราะค่าที่วัดได้แต่ละครั้งกระจัดกระจายไม่เกาะกลุ่มกันเลย (ช่วง 45.0 – 55.0% LEL)
สรุป
เครื่องมือ C ไม่มีความเที่ยงตรง ทำให้ไม่สามารถเชื่อถือผลการวัดแต่ละครั้งได้ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาภายในตัวเซ็นเซอร์หรือระบบการวัดที่ไม่เสถียร ทำให้การติดตามความเข้มข้นของก๊าซเป็นไปได้ยาก
จะเห็นได้ว่าในการตรวจวัดก๊าซ โดยเฉพาะก๊าซอันตราย การมีทั้ง Accuracy และ Precision สูงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าระบบตรวจจับทำงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์
Gas: GfG Oizom 7575


